ปิดขาย ประกันชีวิต แบบสะสมทรัพย์ Exclusive 12/1

ข้อมูลใช้สำหรับพนักงานขายไม่สามารถใช้เป็นส่วนหนึ่งของเอกสารประกอบการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัย

ปิดขายวันที่ 23 พฤศจิกายน 2564

จุดเด่นของผลิตภัณฑ์

ชำระเบี้ยประกันภัย : 1 ปี
คุ้มครองยาว : 12 ปี
รับเงินคืน : 102.1 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย เมื่ออยู่ครบสัญญา
สมัครง่ายไม่ต้องตรวจและแถลงเกี่ยวกับสุขภาพ
ค่าเบี้ยประกันสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้

รายละเอียดประกัน : แบบสะสมทรัพย์ Exclusive 12/1

คำอธิบายเพิ่มเติม

คุณสมบัติของผู้ขอเอาประกันภัย :  อายุผู้เอาประกันภัยตั้งแต่ 20 ถึง 70 ปี

ระยะเวลาคุ้มครอง : 12 ปี

ระยะเวลาชำระเบี้ยประกันภัย : 1 ปี

จำนวนเงินเอาประกันภัย : ขั้นต่ำ 500,000 บาท สูงสุด 10 ล้านบาท ต่อผู้เอาประกันภัย

อัตราเบี้ยประกันภัย : 

•  1,000 บาท ต่อจำนวนเงินเอาประกันภัย 1,000 บาท เท่ากันทุกเพศทุกอายุ
• งวดการชำระเบี้ยประกันภัย รายปี
• ไม่มีอัตราเบี้ยประกันภัยเพิ่มพิเศษเนื่องจากสุขภาพหรือชั้นอาชีพ

การชำระเบี้ยประกันภัย : เงินสด เช็ค เงินโอน หรือบัตรเครดิตธนาคารออมสินเท่านั้น

การตรวจสุขภาพ : ไม่มีการตรวจสุขภาพ

ผลประโยชน์ทางภาษี :

• ผลประโยชน์ที่ได้จากกรมธรรม์ไม่ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่ายแต่อย่างใด
• ผู้เอาประกันภัย สามารถนำเบี้ยประกันภัยที่ชำระไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 172

ความคุ้มครอง

คำอธิบายเพิ่มเติม >> 

ผลประโยชน์เงินคืน (กรณีมีชีวิตอยู่)

- สิ้นปี กรมธรรม์ที่ 1 - 11 = รับเงินคืน 2.1 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

- สิ้นปี กรมธรรม์ที่ 12 = รับเงินคืน 102.1 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

ผลประโยชน์ความคุ้มครอง (กรณีเสียชีวิต)

- ปีกรมธรรม์ที่ 1 - 12 = จ่าย 105 % ของจำนวนเงินเอาประกันภัย โดยบริษัทจะจ่ายผลประโยชน์ข้างต้นหรือจ่ายผลประโยชน์เท่ากับมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ประกันภัยแล้วแต่จำนวนเงินผลประโยชน์ใดจะมากกว่า

อัตราผลตอบแทน (IRR)

- 2.1% (กรณีมีชีวิตอยู่จนครบอายุสัญญา)

ตัวอย่างแสดงความคุ้มครอง

ความสมบูรณ์ของสัญญาประกันภัย

ในกรณีที่ผู้เอาประกันภัยรู้อยู่แล้ว และแถลงข้อความอันเป็นเท็จ หรือรู้อยู่แล้วในข้อความจริงใด แต่ไม่เปิดเผยข้อความจริงนั้นให้บริษัททราบในขณะที่ขอเอาประกันภัย ซึ่งถ้าบริษัททราบข้อความจริงนั้น ๆ แล้ว อาจจูงใจบริษัทให้เรียกเบี้ยประกันภัยสูงขึ้นหรือไม่ยอมทำสัญญา สัญญาประกันภัยจะตกเป็นโมฆียะตาม ป.พ.พ. มาตรา 865 ซึ่งบริษัทอาจบอกล้างสัญญาและไม่จ่ายเงินตามกรมธรรม์

กรณีที่บริษัทจะไม่คุ้มครอง

1. กรณีไม่เปิดเผยข้อความจริง หรือแถลงข้อความเท็จ บริษัทจะบอกล้างสัญญาภายใน 2 ปี นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย หรือตามการต่ออายุ หรือตามการกลับคืนสู่สถานะเดิม หรือวันที่บริษัทอนุมัติให้เพิ่มจำนวนเงินเอาประกันภัยในเฉพาะส่วนที่เพิ่ม เว้นแต่ผู้เอาประกันภัยมิได้มีส่วนได้เสียในเหตุที่เอาประกันภัยนั้น หรือการแถลงอายุคลาดเคลื่อนจนอายุจริงอยู่นอกจำกัดอัตราเบี้ยประกันภัยตามทางค้าปกติ

ในกรณีที่บริษัทได้ทราบข้อมูลอันจะบอกล้างสัญญาประกันภัยได้ แต่มิได้ใช้สิทธิบอกล้างสัญญาประกันภัยภายในกำหนด 1 เดือน นับแต่ทราบข้อมูลนั้น บริษัทไม่อาจบอกล้างความสมบูรณ์ของสัญญาประกันภัยในกรณีนี้ได้

2. ฆ่าตัวตายภายใน 1 ปี นับแต่วันเริ่มมีผลคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัย

3. กรณีผู้เอาประกันภัยถูกผู้รับประโยชน์ฆ่าตายโดยเจตนา

ข้อยกเว้นความคุ้มครอง

รับประกันโดย

ข้อควรระวัง

• ลูกค้าเปราะบาง หมายความว่า ลูกค้าซึ่งผู้ให้บริการต้องใช้ความระมัดระวังในการติดต่อและให้บริการเป็นพิเศษ เช่น ผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีความรู้ทางการเงินอย่างจำกัดหรือไม่มีประสบการณ์การใช้ผลิตภัณฑ์ ผู้ที่มีข้อจำกัดในการสื่อสารหรือการตัดสินใจ อาทิผู้ที่มีความบกพร่องทางการได้ยินหรือการมองเห็น หรือมีภาวะบกพร่องทางสุขภาพ ดังนั้น ในการเสนอขายให้พนักงานขายใช้ความระมัดระวังในการติดต่อและเสนอขายผลิตภัณฑ์เป็นพิเศษ โดยให้มีญาติมาร่วมฟังเวลาเสนอขาย หรือให้ผู้จัดการสาขาหรือผู้ช่วยผู้จัดการสาขาเป็นผู้ตรวจสอบการให้บริการของพนักงานขายที่นำเสนอผลิตภัณฑ์กับลูกค้ากลุ่มนี้
• การใช้สิทธิขอยกเลิกกรมธรรม์ประกันชีวิต (Free look period) สามารถทำได้ภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ผู้เอาประกันภัยได้รับกรมธรรม์จากบริษัท ซึ่งผู้เอาประกันภัยจะได้รับเบี้ยประกันภัยคืนหักด้วยค่าใช้จ่ายฉบับละ 500 บาท
• เมื่อกรมธรรม์มีมูลค่าเวนคืนและมีผลบังคับ ผู้เอาประกันภัยมีสิทธิบอกเลิกสัญญาประกันภัยได้ โดยการขอเวนคืนกรมธรรม์ และมีสิทธิได้รับเงินมูลค่าเวนคืนกรมธรรม์ตามจำนวนที่กำหนดไว้ในตารางมูลค่ากรมธรรม์กับผลประโยชน์อื่นๆ อันพึงจะได้รับ (ถ้ามี) หักด้วยจำนวนหนี้สินใดๆ ที่ค้างชำระอยู่ (ถ้ามี) ก่อน
• ในการเสนอขายให้ผู้เอาประกันเปรียบเทียบผลิตภัณฑ์ต่างๆ ในกลุ่มเดียวกันจากเอกสารแสดงผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต (Product Catalog) เพื่อเป็นทางเลือกในการตัดสินใจ

หมายเหตุ

• ผลประโยชน์ที่ได้จากกรมธรรม์ไม่ต้องเสียภาษี ณ ที่จ่ายแต่อย่างใด
• ผู้เอาประกันภัยสามารถนำเบี้ยประกันภัยที่ชำระไปหักลดหย่อนภาษีได้ตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเกี่ยวกับภาษีเงินได้ ฉบับที่ 172
• ผลประโยชน์ ความคุ้มครองและข้อยกเว้น เป็นไปตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
• การพิจารณารับประกันภัยเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของบริษัทฯ
• ธนาคารออมสิน ในฐานะนายหน้าประกันชีวิต เป็นผู้นำเสนอผลิตภัณฑ์ด้านการประกันชีวิต และอำนวยความสะดวกในการรับชำระเบี้ยประกันภัยเท่านั้น โดย บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน)จะเป็นผู้รับผิดชอบในเงื่อนไขความคุ้มครอง และสิทธิประโยชน์ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัย
• คำเตือน: ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครอง และเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง

ข้อแนะนำในการซื้อประกันภัยผ่านธนาคาร (คปภ.)

ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม Downloads

สื่อประชาสัมพันธ์

**ผู้ซื้อควรทำความเข้าใจในรายละเอียดความคุ้มครองและเงื่อนไขก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง**